ตามเนื้อเรื่อง น่าจะแต่งในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น เพราะมีเอ่ยอ้างถึงสถานที่ในกรุงเทพฯ เช่น สำเพ็ง เป็นการแสดงให้เห็น ถึงวิถีชีวิตของคนไทยในยุคนั้น และพฤติกรรมของผู้ติดยาเสพติดในสมัยนั้น ซึ่งมีกัญชาและฝิ่นเป็นพื้น ซึ่งมีที่มาและความเป็นไป ไม่ผิดกับผู้ติดยาเสพติดในปัจจุบัน จึงนับว่ายังทันสมัยใช้ประโยชน์ได้ดี
ไหว้ครูอิศโรโกสละ | ข้าข้อจะปราถนาปัญญาดี |
ไปภายหน้าถาวรเจริญสุข | อย่ามีทุกข์ขุ่นข้องให้ผ่องศรี |
ไหว้พระพุทธสุดประเสริฐเลิศธาตรี | ไหว้พระธรรมคัมภีร์ที่มีมา |
ไหว้พระสงฆ์ทรงศีลบริสุทธิ์ | เป็นมงกุฏครอบไว้เหนือเกศา |
ไหว้อาจารย์ที่ท่านได้สอนมา | ไหว้องค์อิสรามงคลเมือง |
ที่คุ้มครองป้องเข็ญให้เย็นเกล้า | พระคุณเท่าวงกตไม่ปลดเปลื้อง |
ไม่มีทุกข์สุขใสได้ประเทือง | ให้รุ่งเรืองทั่วหน้าประชาชน |
ทั้งบิดามารดาข้าขอไหว้ | เลี้ยงมาใหญ่เพียงนี้ได้มีผล |
ได้สอนสั่งตั้งใจให้เป็นคน | จนเติบตนทั้งปัญญาวิชาวิชาการ |
จะขอร่ำเป็นคำสุภาษิต | ไว้สอนจิตเตือนใจให้สุขี |
เป็นเพื่อนชายด้วยกันทุกวันนี้ | หาการดีใส่ตัวอย่ากลัวจน |
คือสูบฝิ่นกินยาพาวิบัติ | ถ้าใครตัดได้เห็นเป็นกุศล |
เขาว่าไม่สู้ดีหลีกหนีตน | อย่าซุกซนเข้าจะเมาตาย |
เกิดเป็นคนปรนนิบัติบัญญัติจิต | อย่าเห็นผิดเป็นชอบระบอบหมาย |
ใช่จะแกล้งแต่งเล่นเป็นอุบาย | ลูกผู้ชายพวกเราอย่าเบาความ |
จงดูเยี่ยงอย่างที่เห็นมีถม | อย่าลงงมสูบยาจงเข็ดขาย |
ที่ยังไม่เคยริอย่าริตาม | จงหามปราบจิตใจเสียให้ดี |
อย่าคิดว่าสูบยาเล่นเห็นสนุก | พอติดก่อทุกข์ขุ่นข้องให้หมองศรี |
ไม่ต้องเสียเงินทองลองดูที | คำสองคำเท่านี้ไม่เป็นไร |
นั่นแหละตัวนำทางล้างชีวิต | ถ้ามันแดเสียแน่นแคลนไม่ไหว |
เหมือนสักขาดูเล่นไม่เป็นไร | ต่อคิดได้อยากจะลอกไม่ออกเลย |
นี่แหละเหล่ากุลบุตรมนุษย์หนุ่ม | อย่างหลงงมสูบยาเจ้าข้าเอ๋ย |
ของไม่ดีนี่นะคะจงละเลย | จิตไม่เคยแล้วอย่าควรเข้ายวนยี |
ถ้าผู้ใดดริเข้าดูเอาเถิด | เสียชาติเกิดสารพัดจะบัดสี |
ถึงจะเป็นลูกสกุลคุณผู้ดี | ตัวอัปรีย์คงลามตามติดตัว |
ถึงจะมีทรัพย์สินถิ่นล้นเหลือ | คงจะเจือความฉิบหายในเงาหัว |
จะไปหาเพื่อนฝูงเขาเกลียดกลัว | เที่ยวมุดหัวซุ่มสูบจนรูปงาม |
คือคนไหนได้ดีเพราะขี้ฝิ่น | ที่จะสิ้นความผิดอย่าคิดหมาย |
มีแต่เรื่องเครื่องยากลำบากกาย | อย่าได้หมายกล้ำกลืนไปชื่นชม |
เวียนล้างผลาญพ่อแม่ออกแย่ยับ | จนสิ้นทรัพย์อับจนลงป่นปี้ |
ชั้นผ้าผ่อนท่อนสะไบก็ไม่มี | ลงเป็นขี้ข้าเขาเพราะเมายา |
ถึงเวลาอ้าปากนึกอยากสูบ | จนซีดซูบกายาน่าสงสาร |
ถ้าไม่มีขี้ถุนเที่ยวงุ่นง่าน | จะใช้งานทีไรไม่สบาย |
นี่แหละเหล่าชาวชายทั้งหลายเอ๋ย | อย่าละเลยฟังกลอนอักษรสาร |
คือสูบยาพายับอัประมาณ | อย่าคิดอ่านสูบเลยจะเคยตัว |
ที่เขาเกลียดออกปากไม่อยากว่า | เพราะเขาชังน้ำหน้ากระลาหัว |
ของไม่ดีมันก็รู้อยู่แก่ตัว | ยังขืนมัวเข้าประคองคล้องตะเกียง |
เฟื้องสลึงชั่งมาเรียกหาเพื่อน | ไม่บิดเบือนสูบกันประชันเสียง |
เสียงฟอด ๆ ทอดกายนอนรายเรียง | เจ้าเพื่อนเบี่ยงเบือนหมดลงอดโซ |
พอหมดฝิ่นเพื่อนกินก็หายหมด | ออกเลี้ยวลดซานมาอนาโถ |
เพียงวิบัติซัดเซอยู่เอโก | เหมือนคนโซอัปลักษณ์แสนดักดาน |
สิ้นพศอัฐขัดสนจนจริงหนอ | จะหยอดคอก็ไม่เต็มน่าสงสาร |
เหลือเฟื้องไพก็พอได้รับประทาน | ซื้อข้าวแกงโรงร้านกันตามจน |
เที่ยวทำผิดคิดขะมายไม่หมายพรั่น | เอาจนชั้นท่านมีคุณกระลาหัว |
ไม่คิดเกรงคิดอายสิ้นหายกลัว | ไอ้ชาติชั่วทรชนคนส้นตีน |
ให้หิวโหยโรยราปี้ขาเด็ก | พ่อหนูเล็กขอพี่ไพไม่ข่มเหง |
เด็กมันว่าข้ายังไม่ให้เอง | มาไปเที่ยวสำเพ็งด้วยกันวา |
ลงตามหลังเด็กจ้อยคอยประจบ | ไปแทงสองออกครบทำหน้าหมา |
เด็กมันโกรธก่นโคตรไอ้ขี้ยา | มาทำให้ของข้าพลอยเสียเงิน |
แล้วหุนหันผันหน้าเข้ามาบ้าน | มาพาลด่าเมียด้วยไม่ขวยเขิน |
พอเมียเถียงเตะปับเสียยับเยิน | เห็นตัวเงินแล้วต้องกลับขอโทษเมีย |
ว่าแม่เอ๋ยแม่อย่าโกรธขอโทษพี่ | ได้ปราณีเถิดแม่คุณอย่าสูญเสีย |
เงินเฟื้องมีพี่ขอยืมเถิดนางเมีย | ไปสูบยากับอาเตี่ยพอชื่นใจ |
เมียจะด่าว่าประจานยอมราญรุก | ครั้นอิ่มท้องแล้วก็ทุกข์ถึงขี้ยา |
ทั้งข้าวของเงินทองก็หมดสิ้น | จำนำกินจนหมดอดเหมือนหมา |
เห็นผ้าใครห้อยตากลมเอามา | พอได้ถุนขี้ยาพอชื่นใจ |
เห็นสิ้นทนต้องถุนใบกระท่อม | จนซูบผอมกาโยโซไม่ไหว |
ใบกระท่อมตั้งพร้อมไม่ชื่นใจ | ไม่เหมือนได้เจ้าประคุณถุนขี้ยา |
เที่ยวย่องเกรียบเลียบไปเข้าในวัด | เห็นสงัดอิ่มจิตไม่คิดหย่อน |
พอพ้นเพลพระเณรเข้าหลับนอน | เที่ยวไล่ต้อนจับไก่ไปขายโรง |
ลูกศิษย์วัดขัดใจวิ่งไปจับ | มีหน้ากลับทุ่มเถียงส่งเสียงแข็ง |
ภิกษุสงฆ์ปลงใจให้นุญาต | ร้องบิณฑบาตกับลูกศิษย์คิดสงสาร |
จงปล่อยไอ้ขี้ยามาลนลาน | กลับให้ทานข้าวปลาสาระพัน |
พอปล่อยตัวพ้นไปมันไม่เข็ด | กลับลอดเล็ดลงทางข้างหอฉัน |
เห็นเจ็กใส่หมวกมานัยน์ตาชัน | เข้ากางกั้นฉกชิงจะวิ่งราว |
เจ็กมันแข็งว่าเจ้ามันเข้าสู้ | มันลากถูมัดมาทำหน้าขาว |
โปลิสจับรับจริงโทษวิ่งราว | ไปส่งเจ้ากระทรวงติดพวงคอ |
จำไว้เถิดกุลบุตรบุรุษเอ๋ย | อย่าริเลยอย่างนี้ไม่ดีหนอ |
การที่ดีหาใส่เสียให้พอ | อย่าคิดก่อการชั่วพาตัวจน |
การที่ดีนั้นก็มีอยู่มากหลาย | จงขวนขวายหาข้างทางเป็นผล |
เลขหนังสือคือวิชารักษาตน | จะเป็นคนเรียกว่าชายไม่อายกัน |
วิชาอื่นดื่นดีก็มีมาก | แต่ลำบากหนักแรงต้องแข็งขัน |
จึงจะได้ปล้อนปลิ้นหากินกัน | เหงื่อเป็นมันทุกเวลาระอาใจ |
หนังสือกับเลขนี้เอกนัก | ไม่ต้องชักทุนลงที่ตรงไหน |
กับใจดีนี่สำคัญกว่าอันใด | คงมีคนชอบใจแล้วให้เงิน |
สอนแต่ย่อพอเป็นทางให้หยั่งรู้ | จะยกชูขึ้นมาก็น่าเขิน |
การชั่วดีที่จะกล่าวให้ยาวเยิน | ยากก็เดินตามไปจะไม่พัง |
สิ่งใดชั่วเร่งกลัวเอาตัวหนี | สิ่งใดดีน้อมกายเข้าขวายขวน |
ที่ชั่วหนีดีเอาไว้ใส่ใจตน | เป็นเค้าต้นชั่วกับดีเท่านี้เอง |
ของไม่ดีคนรู้จงดูเอา | ที่ของเมาแล้วอย่าสมาคม |
จงจำไว้เท่านั้นเป็นอันเลิศ | ตรองไปเถิดของดียังมีถม |
เราหยิบเอาแต่ย่อพออารมณ์ | ไม่นิยมอยากชั่วจึงกลัวไกล |
ผู้ใดอ่านสารศรีเรื่องนี้แล้ว | ดั่งดวงแก้วจินดาอย่าสงสัย |
ถ้ารักตัวผ่าทำจำใส่ใจ | อย่าหลงไหลรักรูปพวกสูบยา |
แม้นคนดีมีสติสิริรอบ | ไม่เห็นผิดเป็นชอบในเลขา |
คนผู้นั้นและท่านมีปัญญา | จะมียศไปข้างหน้าไม่ช้าวัน |
หญิงและชายทั้งหลายผู้รักชื่อ | อย่านับถือคนผิดชิดกระสัน |
แม้นเห็นชอบความจริงทุกสิ่งอัน | ฉันให้ไปสวรรค์ทุกวันเอย |