หน้าเว็บ

04 กุมภาพันธ์ 2552

สุภาษิตสอนศิษย์2

...เจ้าคนหนึ่งทำดีเป็นทีนาย เด็กนั่งหัวนั่งท้ายพายเรือซ่า
เข้าแพแขกถือถุงเข้าพูดจา ว่าแม่ขาผ้าดีมีมาดู
ว่าคุณตาบ้านโน้นท่านใช้มา ให้ซื้อผ้าเนื้อดีสักสี่คู่
ทำแลแลแก้ถุงนับเงินดู ให้พอรู้ก็รัดในบัดใจ
ทำพูดจาว่าผ้านี้ดีหนักหนา แต่คุณตาท่านยังหาเห็นไม่
ราคาผ้าของท่านสักเท่าไร ข้าไปบอกท่านแล้วจะกลับมา...

...แต่พอลงราคาว่าจะซื้อ แล้วกลับพาถุงเงินที่ถือนั่น
ขยับตัวลงเรือด้วยเร็วพลัน ถ้าดิฉันไปแล้วจะกลับมา
พายไปหน่อยหนึ่งพอลับก็กลับคืน เอาถุงใส่ลูกปืนมาวางว่า
เอานี่ไว้เถิดนะแม่เอาผ้ามา จะไปให้คุณตาดูให้เต็มใจ
นางชาวแพส่งผ้าให้สี่ผืน มันก็คืนไปหายหาเห็นไม่
คอยแลแลก้นถุงดูข้างใน ก็ตกใจว่ากูนี้เสียกล...

อ้ายคนหนึ่งยักย้ายอุบายกล
เห็นสองคนชาวเหนือเดินมาหน้า
เข้าพูดผลอล่อลวงเป็นมารยา ว่าท่านมาแต่ไหนทั้งสองนาย
เจ้าสองคนบอกว่ามาแต่เหนือ มันก็ตามถึงเรือและของขาย
แล้วก็พูดต่างต่างตามแยบคาย กล่าวอุบายให้สนิทเป็นมิตรกัน...

...พอถึงร้านตีนตะพานวัดสระเกศ ก็ก่อเหตุเกิดโกงขึ้นที่นั่น
จึงว่าเพื่อนหยุดก่อนอย่าช้าพลัน เราชวนกันกินขนมให้สบาย
ข้าส่งเงินเขาถือติดมือมา กินน้ำยาเถิดหรือซื้อง่ายง่าย
จึงพากันเข้านั่งทั้งสามนาย ว่าแม่ยายฉันจะซื้อขนมจีน...


...ทั้งสามนายก็ขยายขนมกิน อ้ายแสนลิ้นมันก็แลดูตะวัน
ว่าเวลาพอควรจวนจะเพล ออชีต้นของเจ้าเณรอยู่ที่นั่น
จะเอาไปถวายให้ฉันทัน เห็นจะทันดอกกระมังท่านยายขา...

...สักเฟื้องหนึ่งเกิดนะแม่อย่าให้ช้า หยิบโต๊ะมาใส่ไปเห็นจะดี
ยายศรัทธาพาซื่อคิดไม่ทัน จึงเรียกกันว่าเอาโต๊ะออกมานี่
ช่วยจัดแจงแต่งใส่ให้เขาที เห็นพอดีแล้วก็ส่งให้ทันใด
เจ้าตัวดีได้โต๊ะก็ออกมา ก็บอกว่ากุฎีไม่ไกลใกล้
ถวายแล้วก็จะกลับมาบัดใจ เจ้ากินไปพลางเถิดนะเพื่อนเรา...

...เจ้าชาวเหนือเชื่อคำทั้งสองคน ไม่รู้แห่งรู้หนว่าไปไหน
กินแล้วนั่งแลแลเห็นนานไป ก็จนใจว่าข้าจะขอลา
ยายก็ว่าเจ้านี่จะไปไหน ข้าจะไปฟากข้างโน้นริมป่าช้า
จะไปไหนเพื่อนกันยังไม่มา หยุดอยู่ท่ากันก่อนอย่าเพ่อไป
ไม่รู้จักรู้จี่นะแม่เฒ่า ตัวข้าเจ้าชาวเหนือไม่รู้ใต้...

...ว่าที่นี้หลงให้ไปหนักหนา นี่แม่เฒ่าเงินตราเอามานี่
แต่เกิดมาไม่เคยเห็นอ้ายอัปรีย์ มันเต็มทีเล่ห์ร้ายลวงหลายกล
อ้ายคนหนึ่งกินฝิ่นสิ้นกระบิด
มันก็คิดเที่ยวหาอยู่เสือกสน
ได้กระทอผ้าขาดเห็นชอบกล กับย่ามคนเขาตายสะพายมา
พบเรือพระจอดจวนจะใกล้ไป ก็นั่งไหว้ไต่ถามที่ริมท่า
ถามถึงที่จะไปทั้งที่มา แล้วบอกว่าจะเดินสารเจ้าคุณไป
เอากระทอแอบวางข้างประทุน ว่าเป็นบุญของดิฉันเดินสารได้...

...เงินฉันสามสี่บาทเอาติดมา จะซื้อผ้าไปฝากเจ้าลูกชาย
นายเขาเรียกค่าอิฐคิดหักลด ก็พอหมดสิ้นกันทั้งซื้อจ่าย
ยืมปัจจัยสักบาทซื้อผ้าลาย เอาไปฝากลูกชายพอชื่นใจ
พอได้เงินมันก็ลามาทันที ว่าร้านที่ตรงนี้หาช้าไม่
ส่วนพระสงฆ์คอยคอยเห็นช้าไป ก็ว่านี่อย่างไรมันไม่มา
ชักกระทอมาดูไม่มีดี แต่ล้วนผ้าของผีที่ป่าช้า
อ้ายขี้ฉ้อเอากระทอมาปิดตา กูคิดว่าคนดีมาเข้าเดือน
อ้ายคนหนึ่งขี้ฉ้อต่อประสม ช่างแต่งลมนี่กระไรไม่มีเหมือน
เดินตรงขึ้นกุฏีไม่มีเชือน ดูเหมือนคนอย่างคุ้นที่เคยมา...

...ฉันขึ้นไปอยู่เหนือนานนักหนา พึ่งลงมาบางกอกเมื่อคราวนี้
ให้คิดถึงเจ้าคุณนี้เต็มที พอถึงนี่ดิฉันก็ตรงมา
ข้ารำลึกไม่ได้เลยนะเจ้า ลูกศิษย์เราสิมากเป็นหลายหน้า
ดิฉันได้น้ำผึ้งขี้ผึ้งมา แต่ทว่าโต๊ะพานนั้นไม่มี
จะขอยืมเอาโต๊ะในนี้ไป พ่อเณรใหญ่หยิบขันนั้นมานี่
พ่อลงไปด้วยกันกับฉันที เรือออกที่สะพานไม่ใกล้ไกล
ครั้นลงมาถึงต้นตีนสะพาน ก็บอกว่าดิฉันเพิ่งคิดได้...

...พ่อเณรโปรดไปเอาตะลุ่มมา ตรงขันนั้นให้เอามาไว้นี่
เจ้าเณรใหญ่ส่งขันให้ทันที ก็วิ่งรี่รับไปกุฏีพลัน...

...มันก็โผนไปเสียด้วยเร็วพลัน ทีหลังนั้นเณรใหญ่ก็ลงมา
เที่ยวไถ่ถามตามเรือก็ไม่เห็น เอ๊ะทำเข็ญกูแล้วไอ้ขี้ข้า...

อ้ายคนหนึ่งคิดคดกบฎพระ
เที่ยวเกะกะกำเงินขยับเขย่า
เห็นกุฏีเด็กน้อยนั่งซึมเซา จึงตรงเข้าไปใกล้ก็ให้ดู
แล้วถามว่าเจ้าคุณไปข้างใหน จะเอาเงินมาให้พ่ออ้ายหนู...

...ไปเถิดหนาข้าจะช่วยดูกุฏี ข้าอยู่นี่แล้วที่ใหนใครจะมา
เจ้าเด็กน้อยไว้ใจนึกว่าจริง ก็ลุกวิ้งไปบอกเหมือนคำว่า
อ้ายเจ้ากลก็ขึ้นค้นเอาผ้าตรา พระก็มาถึงบันใดใกล้กุฏี
มันก็ลงจากบันใดด้วยเร็วพลัน พระกลันเข้าจะจับวิ่งหนี...

...ครั้งหนึ่งพระจำวัดสงัดอยู่ มันก็จู่ขึ้นไปหาพูดจาอ้อ
ทำทีศิษย์ดีสนิทสนมพอ แล้วทำรอที่จะคลานเข้าหาครู
ชวนเข้าห้องนอนเล่นแลเห็นผ้า แล้วหลับตาทำนิ่งหายใจฟู่
เจ้าเด็กคิดว่าศิษย์สนิทครู ก็ออกอยู่นอกชานสำราญใจ
มันลักผ้าคาดเอวเข้าเร็วผลัน เอาผ้าพันผูกแผลแก้สงสัย
แล้วออกมาร้องว่าจะลาไป เวลาไหนเล่าท่านจะคืนมา
ลงกุฏีรับรัดไม่รารอ อ้ายนี่คอเคยลักมาหนักหนา
เจ้าเด็กเราเล่าไว้เป็นราคา อย่าคบค้าพาคนขึ้นกุฏี
เจ้าสำนวนทำกลเป็นแยบคาย
กล่าวอุบายหลอกลวงไปตามที่
เอาง่าเถะห่อใส่ในสำลี ว่าพระนี้เขาฝากดิฉันมา
เจ้าของเขาขัดเข้าเขาจะขาย จะเอาเงินไปให้นายทีตีนท่า
พระหลงเชื่อซื้อเก็บไว้บูชา ด้วยเจตนาหลงซื้อจึงเสียการ
บ้างก็มีเขี้ยวหมูมาอุดอัด แล้วผูกรัดถักเกลียวเกี่ยวประสาน
บ้างก็เอาหินผาศิลาดาน มาทำเทียมสัณฐานเป็นเครื่องราง
ลางทีเอาเขี้ยวงามาทำคด แล้วกล่าวปดด้วยอุบายเป็นหลายอย่าง
อันโกหกแยบคายเป็นหลายทาง ถ้ารู้บ้างแล้วจึงพ้นจากกลมัน
ถ้าหลงลิ้นแล้วก็สิ้นเพราะคำคน ถ้าหลงกลแล้วก็เสียเป็นแม่นมั่น
เรากล่าวกลอนสอนใจไว้ทุกวัน แต่ล้วนขันไปทุกข้อแต่พอมี
อันคนเราเจ้าเล่ห์มีสุดแสน ถ้ามันแกนแล้วก็ยิ่งกว่าภูติผี
ทั้งลวงล่อฉ้อฉลทำกลดี เห็นสุดทีที่จะหยั่งน้ำใจคน
ถึงนักปราชผู้ที่ฉลาดเฉลียวคิด ก็หยั่งจิตไม่ได้ไม่เห็นหน
แต่ว่าดีที่ระวังระไวตน จึงค่อยพ้นคนหลอกนี่ซอกซอน
ลางทีเล่าก็เสียเพราะคนซื่อ ไปเชื่อถือคนคดสบถร่อน
มันกล่าวยอล่อลวงแล้วไหว้วอน ช่วยแก้ร้อนมันก็ร้อนเมื่อปลายมือ
ถึงเพื่อนผูกสังขาร์คณามิตร ถ้าสิ้นคิดมันก็คดเอาซื่อซื่อ
ต้องเสียทรัพย์ยับยุบจนสิ้นมือ เพราะพาซื่อถือกันว่ามันดี
มันทอดสนิทคิดล่อแต่พอได้ ครั้นทุกข์ภัยใกล้เคียงก็เลี่ยงหนี
จะหาซื่อสัตย์ตรงที่คงดี เห็นท่วงทีที่จะได้ไม่มากมาย
อันพ่อแม่ครูบานี้สุดแสน ถึงทุกข์โทษคับแค้นไม่หนีหาย
สู้เสียทรัพย์ยับเยินทั้งร่ายกาย ลางทีตายเสียด้วยลูกไม่หลีกเลย
อันว่าสัตว์ในแดนดินสิ้นทุกตัว ถ้าลูกแล้วดีชั่วไม่เพิกเฉย
แต่ลูกรักนี่มันไม่เห็นเลย จึกเพิกเฉยลืมคุณที่เลี้ยงมา
หนึ่งคำสอนพ่อแม่ที่แท้เที่ยง มันหลีกเลี่ยงเสียไม่เอาแต่สักท่า
ถึงคำครูสอนทีหลังมา ก็ไม่ฟังวาจาสักสิ่งเดียว
มาเข้าวัดเรียนวิชาหาความรู้ เณรใหญ่อยู่วัดวาค่ำลงเที่ยว
เรียนวิชาความรู้แต่สิ่งเดียว คิดซ่อนเกี้ยวสีกาทุกท่าไป
ลางทีต่อยตีกันเพราะผิดพ้อง จนก่อเหตุกึกก้องลุกลามใหญ่...

...มันมักมากเหลือล้นคนเลวทราม ก็เพราะความวิปริตเล่นผิดคน
ยังอีเหล่าเจ้าหัวไม้ใจทมิฬ
เที่ยวซอกซอนนอนกินทุกแห่งหน
ดูแต่การงานสนุกทุกตำบล ทำให้คนเขาระอาด้วยกล้ามือ
คุมพวกเพื่อนกินเหล้าแล้วเที่ยวมา ทำเร่ร่าด่าไปด้วยใจดื้อ...
...แกล้งกระทำให้เขาลือผีมือพาล ให้ขย้านกลัวเกรงเป็นไหนไหน
ที่จะลักก็จะลักสบายใจ ที่จะไปจะได้ไปสบายตัว...

...บ้างครูซื่อถือว่าลูกศิษย์ตรง มันปลิ้นปลงลอบขนเอาจนสิ้น
มักลักเลี้ยงพวกเพื่อนเป็นอาจิณ ทั้งเหล่าฝิ่นกัญชาทุกหน้าไป...

...ลางทีถือมีดไม้และขวานหมู เที่ยวเร่อยู่กลางถนนที่คนห่าง
เห็นได้ทีดีฟันคนเดินทาง เป็นโจรกลางบ้านเมืองจนเลื่องลือ
ลางทีเล่าเข้าปล้นตำบลบ้าน แล้วเที่ยวผ่านหนีไปไม่อึงอื้อ...

...จะร่ำเรื่องคนพาลสันดานคด เห็นไม่หมดสิ้นลงที่ตรงไหน
เอาแต่พอฟังรู้เป็นครูไว้ จะร่ำไปก็พ้นปัญญาญาณ...

อันบิดามารดาอาจารย์ครู
ย่อมเห็นรู้จึ่งจะสอนได้ถ้วนถี่
่จงอุตส่าห์ประพฤติที่ความดี ที่ชั่วหนีเสียให้ไกลอย่าไกล้เลย
อันเบี้ยฝิ่นกัญชาสุราร้าย
เป็นเหตุให้ฉิบหายนะท่านเอ๋ย
คนดีดีท่านไม่ชอบอารมณ์เลย เพราะท่านเคยเห็นแล้วแต่หลังมา
แต่เสียทรัพย์ยับยุบเพราะบ่อนเบี้ย จนขายลูกขายเมียเสียหนักหนา
เจ้ายาฝิ่นเล่าก็รักเต็มตำรา เจ้ากัญชาเล่าก็เชือนไม่มีดี
เจ้าน้ำเมาเล่าก็มักให้เกิดความ เขายิ่งห้ามก็ยิ่งฮึกไม่ถอยหนี
ทั้งสี่สิ่งยิ่งร้ายในโลกีย์ ถ้ารักดีแล้วก็อย่ากระทำเลย...