ชตาหรือฟ้าลิขิต??? สิ่งที่บางคนคิดว่า มนุษย์เราสามารถกำหนดชีวิตเราเองได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยอมรับกับคำว่า ลิขิตฟ้า-ชตากรรม สิ่งที่ไม่ต้องการเป็นกับต้องมาเป็นแบบกรรมนำพา
งานราชการจริงๆแล้วเป็นงานที่คนไทย ส่วนใหญ่ของประเทศนี้นิยมชมชอบ และต้องการทำมากที่สุดงานหนึ่ง แต่มีสักกี่คนในราชอาณาจักรแห่งนี้จะได้เป็น อย่างที่ฝันไว้กันไว้ ด้วยเพราะจำนวนงาน จำนวนคน จึงมีการแข่งขันกันสูง
เพื่อที่จะได้ทำงานในสาขาวิชาที่ตนได้เรียนมา แต่ด้วยเหตุหนกลใดไม่ทราบได้ เราเองกับไม่ได้นิยมชมชอบงานนี้แม้แต่น้อยนิดแต่อย่างใด ทั้งที่รู้สรรพคุณของมันดีว่าวิเศษเพียงใด เมื่อครั้งหนึ่งมีผู้มาทำนายทายทักว่าอย่างไรก็ราชการ
ฮึ นึกในใจว่า "เราไม่เป็นสะอย่าง ใครจะทำไม" แต่เวลาผ่านไปด้วยคำเชื้อเชิญแกมท้ายทายทำให้ต้องได้มาทำงานที่คนจำนวนเป็นร้อยพัน อยากทำ !!!ใช่!!!หมอนั้น ทายถูกเราได้ทำงานราชการ ทั้งที่ในใจอยากเป็นเถ้าแก่ต่างหาก เวลาผ่านไป ปีกว่ากับการทำงานก็ทำให้เรารู้ว่าใจเราไม่รักไม่ชอบงานได้เลยเสียจริงๆ
เป็นเหตุให้ต้องเดินออกมาจากมันในที่สุด สะใจมาก..ในตอนนั้นที่เราออกมาได้ทั้งที่ต้องแลกกับสิ่งที่เรารัก(ในตอนนั้น)ไป เวลานั้นผ่านไป4ปีเต็ม งานที่เราวาดฝันมันก็ยังเป็นได้เพียงฝัน เพราะมัวแต่นั่งฝันนอนฝัน ไม่ได้ลงมือทำสักที และแล้วจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึง จุดเปลี่ยนของคนเรานั้นเป็นความแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่จุดเปลี่ยนสำคัญมี 2 อย่างคือการเกิด กับการตาย
ของเรานั้นคือ การเกิดเกิดลูกสาวขึ้นมาหนึ่งนาง จากความคิดที่จงเกลียดจงชังต้องกับกลายมาเป็นการแสวงหา และต้องกับมาไล่สอบอ่านหนังสือกันหูตาลาย เพื่อที่จะทำงาน งานที่เราเดินออกมาจากมันเมื่อ4ปีก่อน ทำไมงานที่เราฝันมันดูยากเย็นที่จะทำ แต่งานที่เราไม่อยากทำกลับดูง่ายดายที่จะเป็น มาถึงตอนนี้ต้องยอมรับกับคำทำนายนั้นแล้วละ ยอมละยอมกับชตาที่ได้ถูกเขียนเอาไว้ละ
เป็นก็เป็น ให้มันรู้กันไป และแล้วท่านหมผู้นั้นก็ทายถูกอีกครั้งจนได้ ถึงตอนนี้เราก็เป็นอีกคนแล้วแหละที่เชื่อคำว่า "ชตาชีวิต"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)